Change [Solo leveling] - นิยาย Change [Solo leveling] : Dek-D.com - Writer
×

    Change [Solo leveling]

    ผู้เข้าชมรวม

    851

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    40

    ผู้เข้าชมรวม


    851

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    62
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  9 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  13 เม.ย. 67 / 21:52 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    0

    บทนำ

    เรื่องราวของทุกคนคืออะไรหลังจากดวงตาถูกเปิดขึ้นมามองโลกใบนี้? นั่นสินะ ถ้าจะให้ช่วยเล่ามันออกมาก็คงจะหลากหลายเรื่องเลยสินะ ชีวิตของผู้คนก็เหมือนการเดินทาง มีขึ้นและลง ความหลากหลายเป็นรสชาติของอาหาร ไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันเหมือนความต่างของคุณภาพเนื้อผ้าที่สวมใส่ ชีวิตที่ถูกกำหนดขีดเขียนขึ้นมาด้วยตนเอง

    แต่ชีวิตของฉันมันก็คงเส็งเคร็ง เกินจะพูดล่ะนะ

    ฉันคงต้องแนะนำตัวก่อนตามมารยาทรึเปล่านะ ไม่ต้องหรอก ชีวิตของฉันเท่าที่จำความได้แม่นๆ เลย ฉันเองก็มีครอบครัว

    ฉันเป็นลูกคนเดียว ลูกจับแยกกับพ่อแม่แท้ๆ ตั้งแต่แรกเกิดไม่นาน แต่ฉันก็ยังรู้ว่าพวกเขาคือพ่อแม่ของฉันแต่ความรู้สึกมันกลับห่างเหินเหมือนกำลังคุยกับคนแปลกหน้า..

    พอจะจำได้ว่า แม่ของฉันป่วยด้วยโรคติดต่ออะไรสักอย่างจนฉันอายุสี่ขวบนั่นแหละถึงจะเข้าใกล้แม่ได้

    ฉันจำได้ว่าถูกเลี้ยงมาแบบกวดขันตั้งแต่พอรู้ความ แม่เลี้ยงของฉันเธอเป็นครูจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่

    แต่ฉันจำทุกวิธีการที่เธอลงโทษฉันในยามทำผิดพลาด และล้มเหลวทุกครั้งแม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

    ตี ด่า ตบ สาดน้ำใส่หน้า กดดัน ....ขนาดพ่อแม่แท้ๆ ยังเอาแต่พูดว่าลูกรักหัวแก้วหัวแหวนแต่กลับไม่เคยออกมาช่วยเหลือ...

    เห็นแก่ตัวจังนะ... รู้งี้น่าจะตายไปตั้งแต่ในท้องเลยดีกว่า พอฉันเริ่มโตมาเรื่อยๆ เจอสังคมที่หลากหลาย...

    ฉันพูดน้อยลง ไม่มีหางเสียง เริ่มที่จะไม่เถียงไม่ร้องไห้ ชีวิตที่จำได้ว่าตอนประถมตัวฉันอดหลับอดนอนเพียงเพื่ออนาคตในรั้วโรงเรียนมัธยมที่มันจะต้องดีกว่าที่ฉันเป็นตอนนี้

    แต่ฝันหวานแบบนั้น คงน่าสะอิดสะเอียดในโลกสีหม่นแบบนี้ ผู้คนที่หลากหลายทำให้ฉันรู้ว่าบางที

    คำที่บอกว่า คบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล ฉันคิดว่ามันจะคงอยู่ตลอดไป เหล่าเด็กที่ฝันหวานเมื่อไหร่กันหนอที่จะตื่นมาพบว่าโลกความจริงพวกนี้มันบิดเบี้ยวยิ่งกว่าในหน้าจอที่พวกคุณเห็น

    ฉันเกลียดการเข้าสังคม เกลียดที่จะต้องคิดมากเพราะมันทำให้ปวดหัว ฉันไม่ชอบกินช็อโกแลต ฉันไม่ชอบคณิตศาสตร์ ฉันไม่ชอบเด็กก็ไม่ชอบแบบจริงๆ เด็กที่ไม่น่ารักฉันไม่อยากเข้าใกล้ แม้แต่เด็กเล็กฉัน... อยากจะพูดอะไรก็ช่างเถอะแต่ถ้าตรงไหนมี เด็กฉันจะไม่เข้าไปใกล้แน่

    เวลาว่าง ฉันมักจะวาดรูปลงสีน้ำบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ฉันก็จะหมกตัวเอาแต่อ่านนิยายและฝึกภาษาอังกฤษ

    ตอนนี้ก็กลับมาอ่าน Solo Leveling รอบที่สองแล้วล่ะ แต่ส่วนตัวชอบอ่านอะไรที่มันสะท้อนชีวิตและจิตวิทยามากกว่าล่ะนะ

    “ไปกันเลยเถอะ”

    เสียงเรียกเจื้อยแจ้วของเพื่อนสนิทดึงสติฉันที่เอาแต่มองตรงไปหน้ากระดานเรียนที่ว่างเปล่าในคาบสุดท้าย

    ฉันกะพริบตาสองสามครั้งก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันไปรูดซิปกระเป๋าดินสอแล้วเก็บใส่กระเป๋าสะพายหลัง

    แล้วปิดหน้าจอมือถือที่กำลังอ่านนิยายอยู่เก็บใส่กระเป๋าเป้สะพายข้างก่อนจะลุกขึ้นแล้วสะพายกระเป่าออกไปรอเพื่อนข้างนอกห้องเรียนขณะใส่รองเท้ายืนรอ

    “วันนี้กลับกี่โมงอะคุณ_”

    “บ่ายสามโมง คิดว่าน่าจะต้องไปยืนรอแม่มารับข้างนอกแล้วล่ะ”

    “บ๊ายบายนะ อย่าลืมล่ะพรุ่งนี้มีสอบด้วย” ฉันเอ่ยลาก่อนจะเดินไปที่ประตูหลังโรงเรียนที่เปิดแล้วก่อนจะมาหยุดยืนรอที่จุดรับปกติที่แม่จะมาจอดรถรอรับ

    ซึ่งจุดที่ฉันยืนฉันมั่นใจมากว่าปลอดภัย ก็มันเป็นจุดตรงคนเยอะที่สุดเลยนี่นา ตรงหน้าโรงพยาบาลที่มีจุดรอรถ

    ฉันมองรอบข้างก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป่าสะพายข้างแล้วหยิบมือถือออกมาปลดล็อคก่อนจะพิมพ์แชททักไปหาแม่ว่าอยู่ตรงไหนแล้ว

    แต่แล้วจู่ๆ หัวฉันมันก็ชาไปหมด ฉันเห็นภาพที่ตัวเองเอนตัวล้มลง มันเจ็บนิดหน่อยก่อนจะเป็นความรู้สึกชา

    รู้สึกปวดหัวมากๆ ภาพที่ฉันเห็นตอนนี้มันหมุนไปหมด....

    เลือดใครกันนะ? ของฉันเองงั้นเหรอ?

    ได้ยินเสียงแว่วผู้คนรอบข้างกำลังพยายามช่วย...

    แต่ว่าความรู้สึกที่ไม่มีแรงอยากจะหลับมันมากเกินกว่าที่ฉันจะฝืนลืมตาเอาไว้ได้แล้ว

    อ่า... แม่ผุ้ให้กำเนิดก็พึ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานนี้...คราวนี้เป็นฉันเหรอ เสียตายจังนะที่ไม่มีโอกาสแก้ไขแล้ว

    ยังไม่ได้ชดใช้บุญคุณ ให้คุณแม่เลี้ยงกับคุณพ่อเลย...

    นิยายที่เราเองกำลังฝึกเขียนอยู่ยังไม่จบด้วยสิ....

    ...อยากกลับบ้านไปกอดน้องหมาตัวน้อยขนนุ่มตัวนั้นอีกจังเลยนะ....

    ………

    “ฉันจะใช้ชีวิตให้ดีกว่าเธอเองนะ”

    “แต่เธอเองก็ต้องช่วยฉันเข้าใจนะ”

    “เข้าใจใช่มั้ยว่าต่อไป เธอจะเจออะไร”

    .....

    ของแบบนั้น....

    ปาฏิหาริย์มันไม่มีจริงหรอก

    ................

    สวัสดีนักอ่านที่น่ารัก ทุกคนในรอบหลายเดือน? รึเปล่านะ ก่อนอื่นการหายไปนานแสนนานของไรท์สาเหตุหลักเลยคือตอนนี้ต้องโฟกัสกับเรื่องเรียนก่อนค่ะ และช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์เข้ามาแทรกและมีผลกระทบจิตใจเลยทำให้หยุดหายยาวไปนาน

    แต่ตอนนี้กลับมาแล้ว เย้

    ก็เปิดมาในเรื่องใหม่ที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าอยากจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

    นั่นก็คือเรื่องSolo Leveling เราลองมาดูโลกออริที่มีตัวละครแปลกปลอมติดส้อยเข้ามาผัวพันกับเรื่องราวในครั้งนี้กันดีกว่า และไม่มีนางเอกอะไรทั้งสิ้น

     

    !!!เนื้อหาในแฟนฟิคนั้นไม่ได้มีเจตนาทำให้ตัวละครเสียหายแต่อย่างใด!!!

    !มีความกาวมโน OOCสูง!

    !โปรดมีสติในการอ่านเสพแฟนฟิค!

    !เรื่องนี้ไม่มีนางเอก ออกไปทางชิปออลจินอูนิดหน่อยนิดจริงๆนะ!

    !มุมมองของเรื่องสลับกันระหว่างตัวละครอาจจะมีงง!

    เตือนแล้วนะ และอย่างสุดท้ายโปรดแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพไม่งั้นจะถูกแบน

    พร้อมเปิดเรื่องหลังจาก ช่วงเดือนหลัง1 มีนาคม พ.ศ.2567

    อัพเดต:ภาพปกนั้นเป็นของนักวาดและไอเดียจากนักเขียนห้ามนำไปใช้โดยเด็ดขาดรูปวาด นับเป็นงานศิลปกรรม ประเภทจิตรกรรม ที่เป็นงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ ทันทีที่สร้าง ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน ตัวอย่างการใช้รูปวาดที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือได้รับข้อยกเว้น เช่น ใช้ประกอบรายงานเพื่อการศึกษา ใช้เป็นการส่วนตัว เช่น การตั้งหน้าจอโทรศัพท์ ถือเป็นทรัพสินทางปัญญานะคะ ทางไรท์ได้เป็นคนบรีฟและสร้างขึ้นมาก่อนจะส่งต่อให้นักวาดวาดปกขึ้นมา เพราะงั้นรูปภาพหรือกระทั่งความคิดล้วนมีราคานะคะ

    โปรดรอสักครู่....

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น